ที่มาภาพ: https://bg.usembassy.gov/rand-fighting-disinformation-online-a-database-of-web-tools/
ข้อมูลบิดเบือน (disinformation)[1] ยังคงถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองต่อไปในปี
2023 โดยมีแนวโน้มที่น่าสนใจรวมถึงมิตรภาพระหว่างจีนกับรัสเซีย
หลายประเทศต่างพยายามแสวงหาและพัฒนาขีดความสามารถด้านข้อมูลบิดเบือนและการใช้เทคโนโลยีปรากฎใหม่เพื่อควบคุม/จัดการข่าวสาร
ทั้งนี้ Telegram เป็นแพลตฟอร์มหลักบนโลกออนไลน์ที่ถูกใช้เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน[2]
ความร่วมมือจีน
- รัสเซียมีนัยเกี่ยวพันทางภูมิศาสตร์การเมือง (geopolitical implication) หลังผู้นำทั้งสองประเทศประกาศความร่วมมือแบบ “ไร้ขีดจำกัด” ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี
2022 อนึ่ง รัสเซีย จีนและอิหร่านได้รับการประเมินว่า
มีขีดความสามารถอย่างมากในการใช้ข้อมูลบิดเบือนเป็นเครื่องมือดำเนินนโยบายต่างประเทศ
ปีที่ผ่านมาเป็น “ปีแห่งการบิดเบือนข้อมูล”
(การจงใจเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด) ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของรัฐบาล
สังคม ภาคเอกชนและองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ขณะที่รัฐและตัวแสดงที่ไม่ใช่ไม่ใช่รัฐจำนวนมากใช้ข้อมูลบิดเบือนเพื่อเป้าหมายต่าง
ๆ
การใช้ข้อมูลบิดเบือนโดยรัฐหรือพันธมิตรในปี
2020 ถูกครอบงำด้วยเรื่องการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่วน “ปีแห่งข้อมูลบิดเบือน”
(2022) ถูกกำหนดโดยสงครามผิดกฎหมายของรัสเซียในยูเครน ซึ่งพัฒนาต่อเนื่องในปี
2023 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตัวแสดงที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐและแนวร่วมพยายามสร้างความชอบธรรมให้กับความขัดแย้ง
โดยกล่าวโทษว่าสหรัฐฯรวมทั้งตะวันตกและนาโตเป็นต้นเหตุของสงคราม เพื่อบั่นทอนการสนับสนุนยูเครน
ขณะที่รัสเซียโหมกระพือเรื่องล่าโดยอ้างว่าสงครามยูเครนคือการปลดแอกจากนาซี (de-Nazify)
นอกจากนี้ยังมีการเล่าเรื่องเท็จเกี่ยวกับการสมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโตของสวีเดนและฟินแลนด์
อีกทั้งการสร้างทฤษฎีสมคบคิดกล่าวหาสหรัฐฯอย่างไร้เหตุผลเกี่ยวกับการก่อวินาศกรรมท่อส่งก๊าซ
Nord Stream 1 และ 2 ตลอดจนบิดเบือนข้อมูลกล่าวถึงผู้ที่ทำให้เกิดวิกฤตพลังงานในยุโรปและวิกฤตอาหารโลก
เครือข่ายข้อมูลบิดเบือนที่รัสเซียสนับสนุนอาศัยแพลตฟอร์มสื่อสังคมแบบดั้งเดิม
เช่น Facebook เผยแพร่เรื่องเล่าบิดเบือนข้อมูล อย่างไรก็ตาม
Telegram นับเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลักที่ถูกใช้เผยแพร่ข้อมูลเท็จไปยังประชาคมออนไลน์
ปี 2022 เราได้เห็นความเป็นพันธมิตรจีน-รัสเซียและการแพร่ขยายข้อมูลบิดเบือน
การจัดการข้อมูลของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) มุ่งเน้นประเด็นภายในประเทศและภูมิภาค เช่น ส่งข้อความสถานการณ์โควิด-19
ในจีน ตอบโต้เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่ง)
และประเด็นความสัมพันธ์กับไต้หวัน
ปรากฎหลักฐานว่าตัวแสดงที่ได้รับการสนับสนุนจาก
CCP หรือแนวร่วมได้ขยายเรื่องเล่าที่รัสเซียจุดประเด็น โดยสรุปแนวโน้มที่เกิดขึ้นในปี
2020 คือ การบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19 แต่กระแสนี้ก็เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นในปี
2022 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูหมิ่นประเทศตะวันตก
CCP ได้ขยายการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับยูเครน เพื่อสร้างความเสื่อมเสียแก่สหรัฐฯ
นาโตและชาติตะวันตก ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ CCP และเครือข่ายออนไลน์กล่าวอ้างด้วยข้อมูลเท็จเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการลับในยูเครน
กล่าวหาว่าสหรัฐฯทำให้เกิดวิกฤติอาหารโลก
เมื่อกรกฎาคม
2022 อดีตหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ Twitter ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (Securities
and Exchange Federal Trade Commission) โดยระบุว่านอกจากรัสเซีย รัฐบาลอินเดียและไนจีเรียพยายามสร้างอิทธิพลเหนือแพลตฟอร์มโดยว่าจ้างพนักงานประจำที่อาจสอดแนมผู้ใช้งาน
Twitter
ในปี
2022 คณะลูกขุนตัดสินว่าอดีตพนักงาน Twitter สองคนทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียเพื่อเข้าถึงข้อมูลกลุ่มต่อต้านรัฐลซาอุดีอาระเบีย
ก่อนหน้านี้ในปี 2019 บริษัท Meta ได้ปิดเครือข่ายที่รัสเซียให้การสนับสนุนบน
Facebook และ Instagram ซึ่งมีต้นกำเนิดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอียิปต์
Meta ระบุในรายงานว่า พฤติกรรมไม่น่าเชื่อถือที่ประสานกันบน Facebook และ Instagram มุ่งเป้าหมายไปยังผู้ใช้ออนไลน์ในตะวันออกกลางรวมถึงแอฟริกาเหนือและตะวันออก
ข้อมูลบิดเบือนเป็นเครื่องมือราคาค่อนข้างถูกและอาจมีประสิทธิภาพในการสร้างอิทธิพลเหนือรัฐบาลอื่น
ๆ ผู้เห็นต่างทางการเมืองหรือกระตุ้นให้เกิดความโกลาหลและความสับสนทางการเมือง
หลายประเทศพยายามพัฒนาขีดความสามารถและประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูล
แต่ไม่ใช่ทุกประเทศที่มีเป้าหมายกระทำต่อรัฐหรือประชากรนอกเขตแดนของตน
สื่อสังคมออนไลน์กลายเป็นช่องทางการจัดการข้อมูลและการสื่อสารที่โดดเด่น อาจมีบางประเทศพยายามใช้ข้อมูลบิดเบือนเพื่อเป้าหมายทางการเมืองและภูมิศาสตร์การเมือง
ตัวแสดงที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐและแนวร่วมยังคงสร้างนวัตกรรรม
หลีกเลี่ยงนโยบายควบคุมการแพร่กระจายข้อมูลบิดเบือนทางออนไลน์ เช่น ในปี 2022
สหภาพยุโรปสั่งห้ามสื่อที่รัสเซียสนับสนุนรวมถึง Russia Today และ Sputnik ในกันยายน 2022 Meta
ประกาศว่าได้ทำลายเครือข่ายขนาดใหญ่บน Facebook ที่รัสเซียให้การสนับสนุน ซึ่งแอบอ้างเป็นสำนักข่าวในยุโรปเพื่อเผยแพร่เรื่องเล่าที่ฝักใฝ่รัสเซียเกี่ยวกับสงครามในยูเครน
แม้กรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นการใช้เทคโนโลยีระดับต่ำ
แต่เทคโนโลยีปรากฎใหม่ช่วยให้การแพร่ข้อมูลบิดเบือนได้อย่างรวดเร็วและซับซ้อนมากขึ้น
โมเดลภาษาที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (A)I เช่น ChatGPT ของ OpenAI อาจถูกใช้สร้างบทความปลอม
การประกาศข้อความอื่น ๆ ด้วยความเร็วสูงซึ่งอาจเกิดข้อผิดพลาดน้อยกว่าการกระทำของมนุษย์
[1] ข่าวสารที่มีเนื้อหาเป็นเท็จ ถูกบิดเบือนและคนที่เผยแพร่ก็รู้ว่าไม่เป็นจริง
มีเจตนาโกหก (ออกแบบมาโดยมีเจตนาร้าย) เป้าหมายคือ กลุ่มคนที่ถูกหลอกลวงได้ง่าย
(โดยผู้ไม่ประสงค์ดี) จงใจเผยแพร่ เพื่อชักนำให้คนเข้าใจผิด เช่น เราแชร์ข่าวว่า
การบรรยายในวันศุกร์นี้ถูกยกเลิก (ทั้งที่เรารู้ว่าไม่ได้ยกเลิก)
เท่ากับเราจงใจแชร์ข่าวสารที่มีเนื้อหาเป็นเท็จ
เมื่อข้อมูลบิดเบือนถูกแชร์ออกไปมักกลายเป็นข้อมูลที่ผิด (misinformation)
[2] DISINFORMATION
TRENDS ON THE HORIZON IN 2023 INTELBRIEF Tuesday, January 3, 2023
Available at:
https://mailchi.mp/thesoufancenter/disinformation-trends-on-the-horizon-in-2023?e=c4a0dc064a

No comments:
Post a Comment