ประจบ “นาย” ด้วย “ผลงาน” สืบวงษ์ ประสาทเสรี (พี่สืบ) อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
สงครามอิสราเอล – ฮามาส
ทวีความรุนแรงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 โดยกองกำลังป้องกันอิสราเอล
(IDF) ขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินเมื่อ 27 ตุลาคม 2023 จนถึงขณะนี้ตัวเลขความสูญเสียจากการทำลายล้างของทั้งสองฝ่ายพุ่งขึ้นมากกว่าการสู้รบ
5 ครั้งที่ผ่านมา นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสชนะการเลือกตั้งในปี 2006
และเข้ารับช่วงการปกครองฉนวนกาซาต่อจากจากคณะบริหารปาเลสไตน์ (Palestinian
Authority-PA) ในปี 2007
สหรัฐฯ
และหลายประเทศเรียกร้องให้อิสราเอลให้ชะลอการบุกฉนวนกาซาอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวบอบช้ำจากการทิ้งระเบิดโจมตีเกือบ
3 สัปดาห์ เพื่อตอบโต้/แก้แค้นกลุ่มฮามาสที่โจมตีอิสราเอลอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อ
7 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ผู้นำชาติตะวันตกหลายรายแสดงความกังวลว่าการบุกภาคพื้นดินของอิสราเอลอาจนำไปสู่สงครามที่ขยายวงกว้างในตะวันออกกลาง[1]
อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการขั้นที่สอง (Phase 2)
ด้วยการเคลื่อนกำลังภาคพื้นดินเข้าสู่ฉนวนกาซาซึ่งมีสภาพคล้ายนรกบนดิน (hellscape) โดย 1 ใน 10 ของอาคารในพื้นที่ดังกล่าวแหลกลาญจากการโจมตีทางอากาศของ
IDF ซึ่งคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์กว่า 9,000 คน (ส่วนใหญ่เป็นเด็ก)
การปิดล้อมของอิสราเอลทำให้เกิดภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิง น้ำสะอาดและอาหารซึ่งคุกคามชีวิตมนุษย์อีกหลายพันคน[2]
การรุกล้ำด้วยกำลังทหารอิสราเอลครั้งนี้ใช้กลยุทธ์โอบล้อมจากเมือง
Beit Hanoun ทางตอนเหนือและเมือง
Bureij ทางตอนใต้
ใกล้บริเวณจุดกึ่งกลางของฉนวนกาซาซึ่งมีความยาวประมาณ 45 กิโลเมตร
โดยการโจมตีทางอากาศอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนขบวนรถถัง ยานยนต์หุ้มเกราะบรรทุกทหารราบและทหารช่างเข้าไปตั้งฐานที่มั่นชั่วคราวในฉนวนกาซา
แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นวันเผด็จศึก (D-Day)
อย่างเป็นทางการหรือไม่
จุดมุ่งหมายแรกของปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลยังคงเดิมคือ
การโดดเดี่ยวและทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของกลุ่มฮามาสโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดิน
สังหารผู้นำ/สมาชิกระดับล่างให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และถอดถอนกลุ่มฮามาสจากการควบคุมฉนวนกาซา
โดยมีขอบเขตการปฏิบัติการกว้างขวางกว่าครั้งใด ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเตือนว่าเป็นการปฏิบัติการที่
“ที่ยากลำบากและยาวนาน”
จุดมุ่งหมายประการต่อมาคือการช่วยเหลือตัวประกันกว่า
220 คนที่ถูกลักพาตัวเมื่อ 7 ตุลาคม 2023
ทั้งนี้ครอบครัวของตัวประกันชาวอิสราเอลรวมทั้งรัฐบาลของพลเมืองต่างชาติอย่างน้อย
41 ประเทศ (1 ใน 4 ของตัวประกันทั้งหมดเป็นแรงงานสัญชาติไทย) ต่างกดดันให้รัฐบาลอิสราเอลเร่งช่วยเหลือตัวประกัน ขณะที่กองทัพอิสราเอลพยายามสร้างความมั่นใจให้กับสาธารณชนว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมาย
2 ประการได้พร้อม ๆ กัน[3]
ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
โดยเฉพาะสงครามอิสราเอล-ฮามาสอาจส่งผลกระทบเศรษฐกิจโลกและภูมิภาคซึ่งเป็นแหล่งอุปทานน้ำมันและเส้นทางเดินเรือสำคัญ
สงครามอาหรับ-อิสราเอลในปี 1973 นำไปสู่การคว่ำบาตรน้ำมัน (Oil
Embargo) และภาวะเศรษฐกิจชะงักงันและเงินเฟ้อ (stagflation) นานหลายปีเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ส่วนความขัดแย้งอื่น ๆ
มีผลกระทบจำกัด แม้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกดูเปราะบางและกำลังฟื้นตัวจากภาวะเงินเฟ้อรุนแรงที่เกิดจากสงครามรัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปี
2022 สงครามในภูมิภาคแหล่งผลิตน้ำมันอาจทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นและส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง
เริ่มจากความไม่สงบในโลกอาหรับไปจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2024
ซึ่งราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงคะแนนอีกทั้งเป็นความเสี่ยงที่เราไม่รู้ว่ามีหลายสิ่งที่ยังไม่รู้
(unknown unknowns)
สำนักข่าว Bloomberg ได้พิจารณาแนวโน้มผลกระทบของสงครามต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและเงินเฟ้อภายใต้สามฉากทัศน์
คือ 1) สงครามจำกัดเขตในฉนวนกาซาและอิสราเอล 2) ความขัดแย้งขยายตัวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ซีเรียและเลบานอนซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มเฮซบอลลาห์ที่ได้รับการสนัลสนุนจากอิหร่าน
กลายเป็นสงครามตัวแทนระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน และ 3) สงครามอิสราเอล-อิหร่านซึ่งเป็นคู่อริในภูมิภาค[4]
แนวโน้มผลกระทบฉากทัศน์ทั้งสามเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ
ทำให้ราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ขนาดหรือความแรง
(magnitude) ของผลกระทบแตกต่างกัน
ความขัดแย้งยิ่งขยายตัวมากเท่าไร ผลกระทบจะยิ่งเพิ่มขึ้นจากภูมิภาคไปสู่โลก
ภาพความเสี่ยงและความเป็นไปได้ในความเป็นจริง
(actual range)
มีขอบเขตกว้างกว่าที่จะตรวจจับ (capture) ด้วยฉากทัศน์ทั้งสาม
แม้ทำให้ขนาดของห่วงโซ่เศรษฐกิจแคบลง แต่ก็ยากที่จะ “พยากรณ์” ท่ามกลางความผันผวนในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ส่วนการทำนายภาวะสงครามยิ่งยากกว่า อย่างไรก็ตาม ฉากทัศน์เหล่านี้อาจช่วยกำหนดกรอบความคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ข้างหน้า
ฉากทัศน์ที่ 1 ความขัดแย้งจำกัดเขตอยู่ในฉนวนกาซา ในปี 2014 กลุ่มฮามาสลักพาตัวและสังหารชาวอิสราเอล
3 คน จุดชนวนการรุกรานฉนวนกาซาทำให้มีผู้เสียชีวิต 2,000
คน การสู้รบมิได้ขยายตัวออกนอกดินแดนปาเลสไตน์ ผลกระทบต่อราคาน้ำมันและเศรษฐกิจโลกอย่างจำกัด
ช่วงสัปดาห์แรกของสงครามครั้งนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก
เป็นไปได้ว่าวิถีแห่งสงครามยังคงฉายภาพความรุนแรงซ้ำเดิมร่วมกับการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน[5]
จะส่งผลกระทบเศรษฐกิจโลกเพียงเล็กน้อย
โดยเฉพาะหากซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
ชดเชยการส่งออกน้ำมันของอิหร่านด้วยปริมาณการผลิตสำรองของตน ราคาน้ำมันจะสูงขึ้นบาร์เรลละ
3 - 4 ดอลลาร์สหรัฐ
ฉากทัศน์ที่ 2 สงครามตัวแทน (proxy
war) กรณีสงครามขยายตัว กลุ่มเฮซบอลลาห์ที่ได้รับการสนับสนุนทางการเมืองจากอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธในเลบานอน
พร้อมตอบโต้กองกำลังอิสราเอลตามแนวชายแดนด้วยอาวุธจรวดนำวิถี
หากความขัดแย้งขยายตัวไปยังซีเรียและเลบานอนจะกลายเป็นสงครามตัวแทนระหว่างอิหร่านและอิสราเอล
ผลกระทบทางเศรษฐกิจจะยิ่งสูงขึ้น
Yair Golan อดีตรองหัวหน้าคณะเสนาธิการทหารอิสราเอลระบุว่า
อิหร่านและเฮซบอลลาห์กำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์ ห้วงเวลาที่เฮซบอลลาห์จะเข้าร่วมสงครามครั้งนี้
น่าจะเป็นช่วงที่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดิน (ground invasion) บุกฉนวนกาซา
หากการสู้รบขยายตัวจากจุดนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามโดยตรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน
จะทำให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น การนองเลือดช่วงสั้น ๆ ระหว่างอิสราเอลกับเฮซบอลลาห์ในปี
2006 ส่งผลให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจากฉากทัศน์แรกอีกบาร์เรลละ
5 ดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับราคาน้ำมันเมื่อ 13 ตุลาคม 2023 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เป็นบาร์เรลละ 94 ดอลลาร์สหรัฐ
ความตึงเครียดในภูมิภาคอาจขยายตัวเป็นวงกว้าง
ปัจจุบัน อียิปต์ เลบานอนและตูนิเซียกำลังติดหล่มภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจและการเมือง
การโจมตีตอบโต้กลุ่มฮามาสของอิสราเอลก่อให้เกิดการประท้วงต่อต้านอิสราเอลในหลายประเทศในภูมิภาค
อาจซ้ำรอยการปฏิวัติอาหรับ (Arab
Spring) หรือการลุกฮือขึ้นประท้วงต่อต้านรัฐบาลในโลกอาหรับช่วงต้นทศวรรษ
2010[6]
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในฉากทัศน์นี้มาจากแรงกระแทกของราคาน้ำมันพุ่งขึ้นร้อยละ
10
และการลดความเสี่ยง (risk-off) ในตลาดการเงินซึ่งสอดคล้องกับช่วงอาหรับสปริง
เราจับภาพการเคลื่อนไหวครั้งหลังด้วยดัชนี VIX (มาตรวัดการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง)
ที่เพิ่มขึ้น 8 จุด
ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ
0.2 คงไว้ที่ระดับร้อยละ 6 สร้างแรงกดดันธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ให้รักษานโยบายการเงินที่เข้มงวด
แม้การเติบโตของเศรษฐกิจน่าผิดหวังก็ตาม
ฉากทัศน์ที่ 3 สงครามอิหร่าน
– อิสราเอล ความขัดแย้งโดยตรงระหว่างอิหร่านและอิสราเอลมีความเป็นไปได้น้อย
แต่เป็นสถานการณ์อันตรายที่อาจทำให้เศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นและสินทรัพย์เสี่ยงดิ่งลงส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเติบโตและทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง
หากอิสราเอลและอิหร่านยิงขีปนาวุธใส่กัน
ราคาน้ำมันก็อาจเพิ่มขึ้นระดับเดียวกับช่วงอิรักรุกรานคูเวตในปี 1990 ด้วยจุดเริ่มต้นที่สูงขึ้นมากในขณะนี้
อาจทำให้ราคาน้ำมันแตะระดับบาร์เรลละ 150 ดอลลาร์ กำลังการผลิตสำรองของซาอุดีอาระเบียและ UAE อาจไม่สามารถช่วยได้
หากอิหร่านตัดสินใจปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นช่องทางขนส่งน้ำมันปริมาณหนึ่งในห้าของอุปทานน้ำมันโลก
ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลกระทบจากสงครามในตุลาคม
2023 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) เคลื่อนไหวแย่กว่าตลาดโลกอย่างต่อเนื่องโดยปรับตัวลดลงร้อยละ 6.1
ในช่วงเวลาเดียวกัน ตลาดปรับลดประมาณการกำไร (EPS) ในปี FY2023 ลงอีกร้อยละ 2 เมื่อเดือนที่แล้ว
โดยปรับลดรวมกว่าร้อยละ 20 YTD บ่งชี้ว่าภาพทั้งปีจะหดตัวลงร้อยละ
7 ในปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว[7] นอกจากปัญหาแรงงานไทยที่ถูกจับกุมเป็นตัวประกัน
สงครามอิสราเอล-ฮามาส ยังจุดชนวนความเกลียดชังต่อต้านมุสลิมในไทย
ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการรวมทั้งดวงยิหวา
อุตรสินธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) วิทยาเขตอาบูดาบี ที่แบ่งปันความคิดเห็นกับสื่อไทยเกี่ยวกับความขัดแย้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ไม่สอดคล้องกับมุมมองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ต้องเผชิญการตอบโต้อย่างรุนแรงจากผู้ใช้งาน YouTube, Facebook และ TikTok จำนวนหลายพันคนบอกว่าเธอไม่ใช่คนไทย
เนื่องจากเธอเห็นอกเห็นใจพลเรือนชาวปาเลสไตน์และเป็นนักวิชาการมุสลิม[8]
แบบจำลองของ Bloomberg Economics คาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี
2024 จะลดลงร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 1.7 อัตราเงินเฟ้อโลกอยู่ที่ร้อยละ
6.7 ความหวังที่ตะวันออกกลางจะมีเสถียรภาพมากขึ้นกำลังพังทลายลง การรุกรานยูเครนของรัสเซีย
สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนและความตึงเครียดเกี่ยวกับไต้หวันบ่งชี้ว่าภูมิศาสตร์การเมือง
(geopolitics) กลับมาเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและตลาดในตะวันออกกลางซึ่งไม่เคยจางหายไปแต่อย่างใด
[1] อิสราเอลส่งกองกำลังบุกกาซ่าแย้มอาจบุกโจมตีอีกหลายครั้ง
VOA ตุลาคม 27, 2023 เข้าถึงได้ที่:
https://www.voathai.com/a/israel-mounts-new-sortie-into-gaza-hints-there-may-be-several-invasions-/7328397.html?ltflags=mailer
[2] ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขกาซาและทางการอิสราเอลระบุว่า
ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 9,200 คนบาดเจ็บ 22,911 คน ผู้พลัดถิ่นที่อยู่ 1.4 ล้านคน ส่วนอิสราเอลมีผู้เสียชีวิต 1,400 คนบาดเจ็บ 5,400 คน คม ผู้พลัดถิ่นที่อยู่ 250,00
คน จากเหตุโจมตีครั้งใหญ่โดยกลุ่มฮามาสเมื่อ 7 ตุลาคม 2023 ดูใน These numbers show the
staggering toll of the Israel-Hamas war BY JULIA FRANKEL Updated 1:02
AM GMT+7, November 4, 2023 เข้าถึงได้ที่:
https://apnews.com/article/israel-hamas-war-death-toll-numbers-injured-5c9dc40bec95a8408c83f3c2fb759da0
[3] Israel says its
war can both destroy Hamas and rescue hostages. Their families are less certain
BY JULIA FRANKEL AP Updated 9:32 AM GMT+7, October 29, 2023 Available
at:
https://apnews.com/article/israel-hamas-war-hostages-families-netanyahu-gallant-49b39b3d43cc263b872191874e2d69fa?user_email=d353921897fb821ba7b730d8efbc8dfada4bbeb0ec3cb6614a3cced73746a6e4&utm_medium=Morning_Wire&utm_source=Sailthru&utm_campaign=Morning%20Wire_30%20October_2023&utm_term=Morning%20Wire%20Subscribers
[4] Wider War in
Middle East Could Tip the World Economy Into Recession By Ziad Daoud, Galit
Altstein, and Bhargavi Sakthivel Bloomberg October 13, 2023 Available
at:
https://www.bloomberg.com/news/features/2023-10-12/israel-hamas-war-impact-could-tip-global-economy-into-recession
[5] ในปี
2023 อิหร่านส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มวันละ 700,000 บาร์เรล จากการเจรจากับสหรัฐฯเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนนักโทษและยกเลิกการอายัดทรัพย์สิน
หากปริมาณน้ำมันดิบจำนวนนี้หายไปจะทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นบาร์เรลละ 3 - 4 ดอลลาร์สหรัฐ
[6] Could the Israel-Hamas war trigger unrest across the
Arab world? The Economist Nov 2nd 2023 Available at: https://www.economist.com/graphic-detail/2023/11/02/could-the-israel-hamas-war-trigger-unrest-across-the-arab-world
[7] ลืมอดีตไปและเริ่มต้นพรุ่งนี้ใหม่
Macro Strategy By Ratasak Piriyanont Ratasak.p@kasikornsecurities.com Kasikorn Securities
Public Company Limited 2 November
2023 Available at:
https://kinvestmentportal.kasikornsecurities.com/pdf/130756/231102_Macro%20Strategy_TH_T%20SA_33P.pdf
[8] Israel-Hamas war has awakened anti-Muslim hate in
Thailand By Daungyewa Utarasint Nikkei November 1, 2023 17:00 JST https://asia.nikkei.com/Opinion/Israel-Hamas-war-has-awakened-anti-Muslim-hate-in-Thailand?utm_campaign=IC_opinion_free&utm_medium=email&utm_source=NA_newsletter&utm_content=article_link&del_type=6&pub_date=20231104093000&seq_num=4&si=16103140

No comments:
Post a Comment