ที่มาภาพ: https://images6.fanpop.com/image/photos/35200000/Spy-game-spy-game-35284920-600-800.jpg
การรุกรานยูเครนของรัสเซียส่งผลทำให้ประเทศตะวันตกขับนักการทูตรัสเซียหลายร้อยคน
เพื่อขัดจังหวะการรวบรวมข่าวกรองซึ่งมีขนาดใหญ่มาก (โดยปกติประเทศส่วนใหญ่มักใช้ตำแหน่งทางการทูตเป็นแพลตฟอร์มปฏิบัติการข่าวกรอง)
มาตรการดังกล่าวกระทบต่อบุคคลากรรัสเซียที่ประจำการอยู่ทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ แต่อาจไม่มีผลต่อสงครามหรือการตัดสินใจทางทหารของรัสเซีย
ความพยายาม “กวาดล้าง (clean house)” ของประเทศตะวันตกถือเป็นขั้นตอนหนึ่งในการลดความครึกโครมในการขยายสถานีข่าวกรองรัสเซียในต่างประเทศอย่างถาวร[1]
การขับบุคลากรจากสถานทูตรัสเซียในประเทศตะวันตก
ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้การรุกรานยูเครนของรัสเซีย มีการประเมินว่าเจ้าหน้าที่ทางการทูตรัสเซียจำนวน
120 - 400 คนถูกขับออกจากสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิก NATO ขณะที่
Foreign Policy รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียอย่างน้อย 394
คนถูกขับตั้งแต่มีการเปิดฉากรุกรานในช่วงต้นกุมภาพันธ์ 2022[2]
เฉพาะเยอรมนีเพียงประเทศเดียวได้ขับผู้แทนทางการทูตรัสเซียจำนวนมากถึง
40 คน นับเป็นการดำเนินการที่มีนัยสำคัญของประเทศที่นำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นการประท้วงสงครามในยูเครน
แม้การขับนักการทูตส่งผลกระทบต่อสงครามยูเครนเพียงเล็กน้อยก็ตาม
บุคลากรรัสเซียที่ถูกขับจากสถานทูต น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่มีสถานะการอำพรางในตำแหน่งและการคุ้มกันทางการทูต
ประเทศส่วนใหญ่อาศัยตำแหน่งทางการทูตเป็นแพลตฟอร์มการรวบรวมข่าวกรองซึ่งเป็น “ความลับที่รู้กันทั่วแล้ว
(open secret)” เจ้าหน้าที่ข่าวกรองจำนวนมากที่ปฏิบัติงานนอกเหนือจากตำแหน่งทางการทูตมักต้องสงสัยจากหน่วยงานความมั่นคงของประเทศผู้รับ
(host country)
ตามหลักการประเทศผู้รับจะมีความอดกลั้น
ตราบเท่าที่ผู้แทนทางการทูตปฏิบัติงานในขอบเขตที่กำหนด ซึ่งบางครั้งเรียกว่า “กฎของเกม”
อย่างไรก็ตาม รัสเซียก้าวข้ามขอบเขตเหล่านั้น โดยพยายามปฏิบัติการลอบสังหารในอังกฤษด้วยการใช้สารพิษและพิษจากรังสี
รวมทั้งพยายามใช้อิทธิพลโน้มน้าวการเลือกตั้งต่างประเทศทั้งในสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ
การรณรงค์และปฏิบัติการจำนวนมากมีแนวโน้มว่าได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัสเซียที่ปฏิบัติการนอกเหนือสถานทูต
การขับเจ้าหน้าที่รัสเซียดังกล่าวเป็นการลดขนาดของหน่วยข่าวกรองรัสเซียในยุโรป
โดยส่งผลทางลบต่อความพยายามรวบรวมข่าวกรอง เจ้าหน้าที่รัสเซียจำนวนมากถูกขับเนื่องจากเป็นบุคคลไม่พึงปราถนา
(persona non grata)[3] หน่วยข่าวกรองมักทำงานแบบมีพิธีรีตรอง (ราชการ) เช่นเดียวกับหน่วยงานอื่น
ๆ การหยุดชะงักของระบบและขั้นตอนที่มีมายาวนานทำให้เกิดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติ ขาดประสิทธิภาพและผลผลิตลดลง
แม้การรวบรวมข่าวกรองถูกก่อกวน
แต่เป็นเรื่องชั่วคราวซึ่งรัสเซียจะปรับตัวได้และมีผลกระทบเล็กน้อยต่อการสนับสนุนทางเทคนิคของสถานทูตแก่เจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซียในต่างประเทศที่ฏิบัติงาน
โดยไม่มีตำแหน่งหรือการคุ้มกันทางการฑูตทั้งที่ประกาศตัวหรือไม่ก็ตาม รวมทั้งผู้ที่ไม่ได้ทำงานนอกสถานทูตก็จะได้รับผลกระทบชั่วคราวเช่นกัน
แนวโน้มการเข้าถึงข่าวสารของรัสเซียน่าจะมีอุปสรรค
การขับเจ้าหน้าที่การทูตอาจนำไปสู่การลดจำนวนบุคคลากรรัสเซียที่ได้รับอนุญาตให้ประจำการที่สถานทูตในยุโรปตะวันตกอย่างถาวร
เห็นได้ชัดว่ามีความไม่เท่าเทียมระหว่างจำนวนชาวรัสเซียที่สถานทูตรัสเซียในยุโรปและจำนวนชาวยุโรปในสถานทูตยุโรปในรัสเซีย
การรวบรวมข่าวกรองและปฏิบัติการลับในรัสเซียมีความยากลำบากมากกว่าในสังคมที่เปิดกว้าง
ทำให้ร่องรอยทางการทูตและการข่าวกรองเล็กลง ความไม่สมดุลของขนาดร่องรอยทางข่าวกรองของรัสเซียในสถานทูตยุโรปเป็นภัยคุกคามที่แท้จริงและสร้างความเสียหายต่อประเทศผู้รับ
การทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในแง่ของร่องรอยข่าวกรองอย่างเป็นทางการเป็นทั้งคำแถลงเชิงสัญลักษณ์สำคัญของตะวันตกและขั้นตอนการปฏิบัติในการลดการปฏิบัติการของรัสเซียในต่างประเทศ
การลงโทษคือมาตรการที่จำเป็นสำหรับตอบโต้การรุกรานยูเครนของรัสเซีย
แต่การขับนักการทูตจะต้องไม่ส่งผลทางลบต่อประเทศตะวันตกรวมทั้งการถูกตอบโต้จากรัสเซียด้วยขับนักการทูตตะวันตก
[1] SPY GAMES:
RUSSIAN INTELLIGENCE PERSONNEL EXPELLED FROM WESTERN EMBASSIES INTELBRIEF
Monday, April 11, 2022 Available at:
https://mailchi.mp/thesoufancenter/spy-games-russian-intelligence-personnel-expelled-from-western-embassies?e=c4a0dc064a
[2] West Boots Out
Hundreds of Russian Diplomats in Wake of Ukraine Invasion and War Crimes By
Robbie Gramerand Mary Yang Foreign Policy APRIL 7, 2022, Available at:
https://foreignpolicy.com/2022/04/07/us-europe-russian-diplomats-ukraine/
[3] บุคคลทางการทูตที่รัฐผู้รับไม่ยอมรับ
เช่น กรณีนักการทูตทำผิดกฎหมายหรือข้อบังคับทางศาสนาในประเทศที่พำนักอยู่
จนทางรัฐบาลของประเทศนั้นไม่อาจยอมรับได้และต้องให้เดินทางกลับออกนอกประเทศ
อย่างไรก็ดี นักการทูตอาจถูกรัฐบาลของรัฐผู้รับให้ออกนอกประเทศเป็น persona
non grata ด้วยเหตุผลของการดำเนินการโต้ตอบทางการเมืองระหว่างรัฐผู้รับและรัฐผู้ส่งก็
เป็นได้ โดยที่นักการทูตผู้นั้นมิได้กระทำผิดกฎหมายของรัฐผู้รับหรือกระทำผิดทางศาสนาของรัฐผู้รับแต่อย่างใด

No comments:
Post a Comment