ที่มาภาพ:
A helmet with a swastika, a pistol, the replica of a rifle and cartridges which
have been seized lie on a table during a press conference of the police in
Cologne, Germany,
Wednesday.https://www.nbcnews.com/news/world/3-arrested-germany-cracks-down-neo-nazi-extremists-flna734057
การจับกุมและตรวจค้นบ้านพักสมาชิกเครือข่ายพวกหัวรุนแรงในเยอรมนีเมื่อต้นเมษายน
2021 สะท้อนถึงภัยคุกคามที่เผชิญหน้ารัฐบาลได้แก่ นีโอนาซี คนขาวผู้สูงส่ง
(white supremacists) และกลุ่มหัวรุนแรงขวาจัด (far-right
extremists) ซึ่งแพร่กระจายทั่วประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนีพยามใช้มาตรการควบคุมและลงโทษกลุ่มดังกล่าวอันเป็นผลที่เกิดจากผู้อพยพ
ลี้ภัยและชนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติ ชาติพันธุ์และศาสนา ขณะที่การเลือกตั้งของชาติตะวันตกที่กำลังจะมีขึ้นและสงครามรัสเซีย
- ยูเครนอาจทำให้ภัยคุกคามประเภทนี้ทวีความรุนแรง[1]
เมื่อ 6 เมษายน 2022 รัฐบาลเยอรมนีได้แถลงเกี่ยวกับการจับกุมสมาชิกกลุ่มคนขาวผู้สูงส่ง
4 คนและตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องสงสัย 50 คนซึ่งเกี่ยวข้องกับพวกขวาจัด
ผู้ถูกจับกุมและสอบสวนมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มหัวรุนแรงอย่างน้อย 4 กลุ่ม ได้แก่ Atomwaffen Division ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ,
Combat 18, Knockout 51 และ Sonderkommando 1418 เชื่อว่าผู้ถูกจับกุมทั้ง 4 คน เป็นสมาชิกและผู้นำ Knockout
51 กลุ่มเหยียดผิวซึ่งอุปโลกขึ้นเอง
รายงานข่าวแจ้งว่า
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเยอรมนีมากกว่า 1,000 คนใน 11
รัฐ ร่วมปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรง รวมถึง Rise Above
Movement (RAM) ซึ่งใช้การกีฬาชักชวนบุคคลเข้าร่วมอุดมการณ์ที่เป็นพิษรวมทั้ง
English Defense League ขบวนการประท้วงที่เลิกล้มไปแล้วและ Knockout
51 ซึ่งมักส่งคนไปตรวจตราชุมชนผู้อพยพลี้ภัยโดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามกระตุ้นความรุนแรง[2]
ปฏิบัติการขยายผลสืบสวนครั้งใหญ่แสดงให้เห็นว่า เยอรมนียังคงเป็นศูนย์กลางของพวกนีโอนาซีและกลุ่มคนขาวผู้สูงส่ง
ซึ่งได้รับอิทธิพลจากอุดมการณ์เหยียดเชื้อชาติและแนวคิดเร่งสถานการณ์นิยม (accelerationist
theories)[3] ของกลุ่ม
Atomwaffen Division ที่จัดตั้งขึ้นบนฟอรัมออนไลน์ของพวกขวาจัดเรียกว่า
Iron March ซึ่งถูกยุบเลิกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
แม้พื้นที่เสมือนจริงถูกทำลายลงแต่กลุ่มเหล่านี้ยังมีช่องทางการพบปะพูดคุยบนแอพ
Telegram สื่อสังคม สิ่งพิมพ์และห้องสนทนาออนไลน์ของกลุ่ม Sonderkommando
1418 รัฐบาลเยอรมันเปิดเผยรายละเอียดการปฏิบัติการล่าสุดว่า Sonderkommando
เริ่มดำเนินการในเยอรมนีตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี 2019 - กุมภาพันธ์ 2020 โดยมีเป้าหมาย “ก่อการร้ายปลุกระดมให้เกิดสงครามเชื้อชาติ
เพื่อทำลายระบอบประชาธิปไตยที่มีอยู่และแทนที่ด้วยระบบนีโอฟาสซิสต์”
อุดมการณ์เหล่านี้มีลักษณะร่วมกับแนวคิดเร่งสถานการณ์นิยมที่เผยแพร่ในกลุ่ม
Iron March พูดง่าย ๆ คือ กลุ่มหัวรุนแรงขวาจัดเชื่อมต่อกันบนแพลตฟอร์มการสื่อสารที่หลากหลายทั้งในเชิงลึกและกว้าง
ทำให้ความพยายามในการขจัดภัยคุกคามเหล่านี้มีความซับซ้อนมากขึ้น
แม้รัฐบาลและหน่วยงานนอกภาครัฐใช้มาตรการกลั่นกรองเนื้อหา ลงโทษ จับกุมและดำเนินคดีกลุ่มหัวรุนแรงต่าง
ๆ เช่น Atomwaffen Division และ Combat 18 แต่ขบวนการขวาจัดกลับแพร่กระจายศูนย์มากขึ้นและไม่ได้ลดความเป็นอันตรายแต่อย่างใดอีกทั้งยังสร้างแรงกดดันชุมชนผู้บังคับใช้กฎหมายทั่วโลก
เนื่องจากการมีส่วนร่วมในการสอบสวนและจับกุมที่ซับซ้อนมากขึ้น
การกวาดล้างจับกุมพวกหัวรุนแรงอย่างกว้างขวางของเยอรมนีบ่งชี้ว่า
แนวคิดเร่งสถานการณ์นิยมและนีโอนาซียังคงเป็นคุณสมบัติที่ยั่งยืนของพวกขวาจัดทั่วโลกที่กำลังเติบโตด้วยแรงบันดาลใจจากความรุนแรง
โดยเป็นผลจากความเกลียดชังผู้อพยพลี้ภัย ชนกลุ่มน้อยและผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์
เช่น ศาสนายิวและอิสลาม
ความรุนแรงจากกลุ่มขวาจัดซึ่งมุ่งเป้าไปยังผู้ลี้ภัยในประเทศ “ตะวันตก”
ได้คร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมาก แม้มีความพยายามขัดขวางการก่อความรุนแรง เช่น ปฏิบัติการของเยอรมนีเมื่อ
6 เมษายน 2022 สะท้อนประวัติศาสตร์เยอรมนีอย่างก้องกังวาน
ก่อนหน้านี้เมื่อ
4 เมษายน 2022 ทางการเยอรมันได้จับกุม
“ปีเตอร์ เอส.” สัญชาติเยอรมันในข้อหาลอบวางเพลิงซึ่งทำให้ผู้ลี้ภัยเสียชีวิตในปี 1991
โดย ปีเตอร์ เอส. ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปในที่พักของผู้ลี้ภัยและราดน้ำมันเบนซินพร้อมจุดไฟ
ทำให้ผู้ลี้ภัยชาวกานาเสียชีวิต 1 คน และอีก 2 คนบาดเจ็บจากเพลิงไหม้
การลอบวางเพลิงในปี
1991 เกิดขึ้นก่อนการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับ “การทดแทนครั้งใหญ่
(great replacement theory)”[4] โดย Renaud
Camus กล่าวถึงนโยบายรับผู้อพยพย้ายถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่ใช่คนผิวขาวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการบ่อนทำลายหรือ
“แทนที่” อำนาจทางการเมืองและวัฒนธรรมของคนผิวขาวที่อาศัยอยู่ในประเทศตะวันตก
ความคิดดังกล่าวสร้างความตื่นกลัวให้กับกลุ่มขวาจัดจำนวนมากที่มุ่งสร้างรัฐที่มีชาติพันธุ์เดียวกัน
ความตั้งใจที่จะสร้างความแตกแยกและการเล่าเรื่องแบบแยกส่วนหรือ “พวกเรากับพวกเขา"
ไม่เพียงเป็นตัวขับเคลื่อนความรุนแรงในปีนี้เท่านั้น ปัญหาเหล่านี้จะทวีความรุนแรงก่อนการเลือกตั้งครั้งสำคัญในฝรั่งเศสและสหรัฐฯ
นักการเมืองฝ่ายขวาจัดยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการต่อต้านผู้อพยพ
โดยแสวงประโยชน์จากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไป การมีส่วนร่วมของนักรบต่างชาติขวาจัด
(far-right foreign fighters) ในยูเครนได้สร้างสภาพแวดล้อมที่ติดไฟได้
(combustible) ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนโจมตีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มขวาจัดทั่วโลก
[1] GERMANY CRACKS
DOWN ON FAR-RIGHT FOLLOWING NEO-NAZI ARRESTS INTELBRIEF Wednesday, April
13, 2022 Available at:
https://mailchi.mp/thesoufancenter/germany-cracks-down-on-far-right-following-neo-nazi-arrests?e=c4a0dc064a
[2] German police
raid neo-Nazi cells across country AFP in Berlin Wed 6 Apr 2022 17.49
BST Available at :
https://www.theguardian.com/world/2022/apr/06/german-police-raid-neo-nazi-cells-across-country
[3] ความคิดที่ว่าทุนนิยมหรือกระบวนการบางอย่างที่เกี่ยวข้องและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีควรจะเป็นการ
“เร่ง” และสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างรุนแรง
[4] ดูคำอธิบายใน
The ‘Great Replacement’ Theory, Explained National
Immigration Forum Available at: https://immigrationforum.org/wp-content/uploads/2021/12/Replacement-Theory-Explainer-1122.pdf

No comments:
Post a Comment